ค้นพบความจริงของวูดดี้ใน Toy Story 2

               หลังจากความสำเร็จในอนิเมชั่นเรื่องแรกของ Pixar ในปี 1999 ต่อมาก็มี Toy Story 2 ภาคต่อเรื่องราวของเล่นมีชีวิตที่ได้ขยายโลกของ Toy Story ให้กว้างขึ้นอีกขั้น พร้อมกับรู้จักที่มาที่ไปของตุ๊กตาคาวบอย “วูดดี้” ซึ่งทำให้เขาเข้าใจคุณค่าของตัวเองมากกว่าที่เคยเป็น และนั่นอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ของวูดดี้

– เรื่องราวของ Toy Story 2

               หลังจากเหตุการณ์ใน Toy Story ภาคแรก เหล่าของเล่นของ “แอนดี้” ยังคงเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานในทุกๆวัน พวกของเล่นทุกชิ้นก็มีความสนิทสนมกันมากขึ้น ในขณะที่การใช้ชีวิตประจำวันของแอนดี้และของเล่นของเขาปกติสุขดี จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้แขนของ “วูดดี้” เกือบขาด จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เขาเสียใจมาก เพราะช่วงเวลานี้ของทุกปีแอนดี้จะไปเข้าค่ายคาวบอยและจะพาวูดดี้ไปด้วยทุกครั้ง แต่ปีนี้วูดดี้อดไปเที่ยวกับแอนดี้

ไม่พอแค่นั้นเขายังถูกนำไปเก็บไว้บนชั้นวางหนังสือ ซึ่งนั่นเปรียบเสมือนวูดดี้กำลังจะถูกลืมจากแอนดี้ แถมเรื่องราวยังเลวร้ายยิ่งขึ้น ในตอนที่แม่ของแอนดี้เริ่มหาของเก่าไปขาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเพื่อนของวูดดี้อยู่ ด้วยความรักเพื่อนวูดดี้จึงยอมเสี่ยงเข้าไปช่วยของเล่นชิ้นนั้น จนโดน “อัล” นักสะสมของเล่นเห็นวูดดี้และรู้ได้ทันทีว่า นั่นคือผลงานหายากชิ้นหนึ่ง จึงเลือกจะขโมยวูดดี้ไป ทางพวก “บัซ ไลท์เยียร์” ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงตัดสินใจรวมทีมออกช่วยเหลือวูดดี้ ประกอบไปด้วย “มิสเตอร์โปเตโต้เฮด”, “แฮม”, “เร็กซ์” และ “สลิงกี้ ด็อก”

ทางด้านของวูดดี้ที่ถูกขโมยมานั้น ก็รู้ความจริงว่า ตัวเองเป็นของเล่นเก่าที่โด่งดังในสมัยก่อน ขนาดที่มีรายการทีวีของตัวเอง และสินค้าอีกหลายอย่างในชื่อของวูดดี้ นอกจากนี้ วูดดี้จะมีเซ็ตของเล่นที่ขายพร้อมกัน ได้แก่  “เจสซี่” คาวเกิร์ลผู้ช่วยของวูดดี้, “บูลส์อาย” ม้าคู่ใจ, และ “สติงกี้ พีท” คุณลุงนักขุดทอง  ซึ่งเหตุผลที่วูดดี้ถูกขโมยมานั้น เพราะจะนำไปส่งแสดงโชว์ที่พิพิธภัณฑ์ของเล่นเก่า ซึ่งนั้นเป็นสถานที่ที่วูดดี้จะได้รับความสนใจไปอีกยาวนาน ทำให้วูดดี้เกิดไขว้เขวว่า จะกลับไปหาแอนดี้ที่สักวันต้องเติบโตและลืมวูดดี้ไปหรือไปที่พิพิธภัณฑ์ซึ่งจะมีแต่คนให้สนใจเขาไปอีกนาน

               Toy Story 2 ได้มีการวางรากฐานของการเล่าเรื่อง รวมถึงการนำเสนอที่ชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวแฟนตาซีของของเล่นที่มีชีวิต แต่เป็นอนิเมชั่นที่จะทำให้ผู้ชมหวนคิดถึงของเล่นในวัยเด็กของตัวเอง และเฝ้าคิดว่า ตัวเราในตอนนั้น ให้ความสำคัญกับของเล่นอย่างไรบ้าง ถือเป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องที่เหมาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะมีมุมมองที่แตกต่างและประโยชน์ที่ได้รับจึงต่างกัน สำหรับเด็กมันอาจทำให้พวกเขาดูแลของเล่นดีขึ้น สำหรับผู้ใหญ่จะเห็นคุณค่าของของเล่นมากขึ้น

เครดิตภาพ hikkoshihonpo.com, studentproblems.com, umfilmeumdia.wordpress.com

#อนิเมะไทย #ฉากนี้โคตรดี #ANIMEไทย #ToyStory2